ข้อดีประตูhdf คำแนะนำก่อนติดตั้งประตูhdf 660฿ ส่งฟรีกทม.

Last updated: 23 มี.ค. 2567  |  88178 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ข้อดีประตูhdf คำแนะนำก่อนติดตั้งประตูhdf 660฿ ส่งฟรีกทม.

ประตูHDFเป็นบานประตูสำหรับงานภายในอาคาร ผลิตด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง 

  • โครงสร้างบานประตูHDF กรอบบานประตูHDF เป็นไม้จริงความหนา 35 มิลลิเมตร ความกว้างของกรอบบานไม่น้อยกว่า 10 เซนติเมตร ส่วนนี้เป็นส่วนรับน้ำหนักของบานประตู ให้บานประตูไม่โก่งตัว โครงสร้างภายในกรอบบาน ประกอบด้วยชิ้นไม้ความหนาไม่น้อยกว่า 15 มิลลิเมตร (มาตรฐาน มอก.192-2549) สำหรับบานประตู HDF รุ่นทั่วไป โครงสร้างภายในเป็นชื้นไม้ MDF หรือ แผ่น Honey com 
    • โครงสร้างบานประตูHDFของบริษัท ผลิตตามมาตรฐานมอก. 192-2549
  • หน้าบานประตูHDF แผ่นหน้าบานผลิตจากแผ่นใยไม้ความหนาแน่นสูง HDF (HIGH DENDITY FIBERBOARD) ทำให้บานประตูHDF มีคุณสมบัติ แข็งแรง ทนทาน รับแรงกระแทกได้ดี
    • ผิวสัมผัสหน้าบานประตู HDF มีทั้งแบบลายเสี้ยนไม้และแบบผิวเรียบ

รูปแบบและขนาดบานประตูHDF 

  • ประตู HDF ลูกฟัก ผิวลายเสี้ยนไม้ มีรูปแบบ ลูกฟัก2ช่องตรง , 2ช่องโค้ง ,4ช่องตรง และ 6ช่องตรง บานประตูHDFลูกฟัก มีขนาดความกว้างสูงสุด 90 เซนติเมตร และขนาดความสูง สูงสุด 2.20 เมตร (ประตูHDF ความสูง 2.20 เมตรเป็นบานประตูสั่งผลิต ระยะเวลา 45 วัน)
  • บานประตูHDF บานเรียบเซาะร่อง สามารเซาะร่องหน้าบานประตูได้ตามการออกแบบ ขนาดบานประตู HDFบานเรียบเซาะร่อง ทำความกว้างสูงสุด 2.00 เมตร และความสูง สูงสุด 3.50 เมตร

ข้อดีของบานประตู HDF

  • โครงสร้างบานประตูHDF มีความแข็งแรง โครงสร้างบานประตูเป็นโครงไม้ที่รองรับแรงกระแทกได้ดี
  • รูปแบบานประตูHDF มีความสวยงาม ด้วยรูปแบบบานลูกฟักและบานเรียบเซาะร่อง
  • ผิวสัมผัสประตูHDF มีผิวสัมผัสลายเสี้ยนไม้ ให้ความรู้สึกเหมือนลายไม้ธรรมชาติ และผิวสัมผัสบานเรียบกับการออกแบบสไตล์โมเดิร์น
  • ราคาประตูประตูHDF มีราคาถูกเมื่อเทียบกับประตูชนิดอื่น ประตูHDF มีราคาตั้งแต่ 700-2000 บาทขึ้นกับรูปแบบและขนาด ช่วยประหยัดงบประมาณ
  • ประตูHDF มีน้ำหนักเบา ติดตั้งได้ง่าย สามารถติดตั้งประตูHDFกับวงกบได้ทุกชนิด
  • สีของหน้าบานประตูHDF เป็นสีรองพื้นขาว สามารถพ่นหรือทาสีน้ำมันทับได้ทันทีโดยไม่ต้องทาสีรองพื้น ช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการทำสีหน้าบานและประหยัดค่าใช้จ่าย

ข้อจำกัดของบานประตูHDF

  • หน้าบานประตูHDF ทำจากใยไม้อัดแน่น ป้องกันน้ำและความชื้นต่ำ ต้องทาสีน้ำมันรอบตัวบานและส่วนสันบานประตูเพื่อป้องกันความชื้น กรณีจำเป็นต้องใช้งานบานประตูห้องน้ำ ต้องมีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง และทาสีน้ำมันป้องกันทั้งหน้าบานและขอบบานประตู
  • โครงสร้างบานประตูHDF เป็นบานไม้ประกอบ รองรับแรงกระแทกได้น้อยกว่ากว่าบานประตูไม้จริง ที่ทำจากไม้จริงทั้งบาน

มาตรฐานบานประตูHDF บานไม้ประกอบ มอก. 192-2549 

  • ขนาดความกว้าง ความสูง และ ความหนาของบานประตูHDF มีระยะคลาดเคลื่อน +- ไม่เกิน 2 มิลลิเมตร
  • ระยะโก่งของบานประตูHDF ไม่เกิน 4 มิลลิเมตร และระยะห่อของบานประตูHDF ไม่เกิน 3 มิลลิเมตร
  • สีของหน้าบานประตูHDFมีลักษณะเป็นสีเดียวกัน โดยเป็นสีรองพื้นสีขาวสำหรับบาน
  • ประตูHDFลูกฟัก และ สีรองพื้นสีขาวสำหรับบานประตูHDFบานเรียบ กรณีมีการเซาะร่องตามแบบสั่งผลิต สีของการเซาะร่องเป็นสีน้ำตาลของเนื้อบานประตู กรณีให้ทำการเก็บสีการเซาะร่อง โดยมีค่าใช้จ่ายในการเก็บสีเพิ่ม สีของร่องบานประตูHDFเป็นสีขาวรองพื้นเทียบสีของหน้าบานประตู
  • ผิวของหน้าบานประตูHDF มีลักษณะเรียบสม่ำเสมอ ไม่มีรอยขีดข่วน รอยบุบ บริเวณหน้าบานประตู
  • โครงสร้างประตูHDF เสริมโครงไม้พิเศษเพิ่มความแข็งแรง และให้สามารถใส่อุปกรณ์ประตูได้ทั้งสองด้าน

เลือกรูปแบบประตูhdf ราคาโปรโมชั่น คลิก

ข้อแนะนำการจัดเก็บรักษาบานประตูHDF

  • ควรวางประตูHDFซ้อนกันในแนวนอนบนพื้นที่ยกระดับให้สูงจากพื้นประมาน 90 มม.
  • ควรมีบานรอง (Pallet) หรือวางบนไม้หมอนรอง 3 ชิ้น (บน-กลาง-ล่าง ของบานประตู) ที่มีขนาดความยาวไม่น้อยกว่าความกว้างของประตู ไม่ควรเก็บประตูHDFบนพื้นผิวโดยตรง
  • การกองเก็บประตูHDFควรมีความสูงไม่เกิน 55 บาน เพื่อป้องกันการพังทลายของกองประตู
  • ต้องไม่เก็บรักษาประตูHDFด้วยการวางในแนวนอนบนบริเวณที่เพิ่งทำการฉาบปูนหรือทาสีตัวอาคาร หรือบน บริเวณที่มีความเปียกชื้น
  • สถานที่กองเก็บควรเป็นสถานที่ที่มีหลังคาปกคลุม มีโครงสร้างที่สามารถป้องกันลมฝนและแสงแดดได้เป็นอย่างดี
  • พื้นที่วางประตูHDFต้องเรียบและควรปูวัสดุกันความชื้นจากพื้นผิว และพื้นผิวควรมีการยกระดับความสูงตามคำแนะนำของบริษัทฯ
  • การกองเก็บบานประตูHDFไม่ควรวางในแนวตั้ง และแนวตะแคง เพื่อป้องกันบานประตูHDFบิดโก่ง
  • การกองเก็บควรแบ่งแยกตามชนิดของการใช้งานประตูขนาดให้ชัดเจน เพื่อง่ายต่อการใช้งานและป้องกันการนำไปใช้งานผิดประเภท

การทำสีบานประตูHDF

  • การเลือกสีที่เหมาะสม
    • ผิวบานประตูHDF มีแบบผิวเรียบไม่มีลายเสี้ยนไม้กับแบบผิวลายเสี้ยนไม้ การทำสีบานประตูHDFต้องคำนึงถึงผลกระทบของการมองเห็น (Visual Basic) ที่ส่งผลต่อความเรียบของผิวหน้าประตู ดังนั้นการเลือกประเภทสีความเงา และความด้านของสี รวมถึง เฉดสี ซึ่งมีผลต่อการมองเห็นหลังการใช้งาน
    • ข้อแนะนำการเลือกสีสำหรับบานประตูHDF
      • บานประตูHDFบานเรียบผิวไม่มีลายเสี้ยนไม้ แนะนำให้ทาสีแบบด้าน (Matt) เท่านั้น
      • บานประตูHDFบานเรียบผิวลายเสี้ยนไม้และบานประตูHDFลูกฟักผิวลายเสี้ยนไม้ สามารถทาสีแบบกึ่งเงากึ่งด้านและแบบเงาได้
  • การเตรียมผิวบานประตู
    • ตรวจสอบชนิดการใช้งานและขนาดให้ถูกต้อง และควรตรวจสอบบานประตูก่อนการทำสีหากพบความผิดปกติดไม่ควรทำสีโดยเด็ดขาด
    • ทำความสะอาดผิวบานประตูHDFทั้งสองด้านให้ปราศจากฝุ่นด้วยอุปกรณ์ต่างๆ เช่น กระดาษรายละเอียด(เบอร์ 240-320) แปรงปัดฝุ่น ผ้าสะอาด
    • ในกรณีที่ผิวบานประตูชำรุดมีตำหนิขีดข่วน สามารถซ่อมผิวบานประตูHDFก่อนทำสีได้ เช่น ผิวหน้าเป็นรอยลึกให้ใช้สีโป๊วแต่งรอยเรียบร้อย
    • ถ้าเป็นรอยขีดข่วน ให้ใช้สีรองพื้นทาบริเวณที่เป็นรอยและทิ้งไว้ให้แห้งก่อนทำสี นำบานประตูที่เตรียมไว้ มาขัดเบาๆ ให้ทั่วผิวบานประตูทั้งสองด้าน ด้วยกระดาษทราย(เบอร์240-230) ที่เตรียมไว้โดยเฉพาะบริเวณที่ซ่อมรอยตำหนิ ตรวจดูว่าผิวหน้าบานประตูHDFเรียบตลอดทั้งบานหรือไม่ ถ้ายังไม่เรียบให้ใช้สีโป๊วปรับให้บานเรียบก่อน แล้วใช้แปรงปัดฝุ่นที่บานประตูออกนำผ้าชุบน้ำพอหมาดเช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง ทิ้งไว้ให้ผิวประตูแห้งสนิท
    • การโป๊วผิวบานด้วยดินสอพองหรือโป๊วเพื่อให้เกิดความเรียบบนบานก่อนทำสีรองพื้นจะทำให้ความเรียบ ของสีดียิ่งขึ้นสามารถลดการเห็นการเป็นคลื่นไม่เรียบของบานประตูได้
  • การทำสีน้ำมัน (Synthetic paint)
    • เตรียมผิวบานประตุตาม ข้อ2 เมื่อผิวบานประตูแห้งสนิทและปราศจากฝุ่น ใช้สีน้ำมันที่ผสมเตรียมไว้ทาหรือพ่นสีให้ทั่วบานประตูHDF โดยความหนาของสีไม่เกิน 100 ไมคอน แล้วรอให้แห้งสนิทตามที่ระบุไว้จาก ผู้ขายสี (โดยมาก ประมาน 6-8 ชั่วโมง) จึงทาหรือพ่นซ้ำอีกครั้งหนึ่ง

ข้อแนะนำการติดตั้งประตูHDF

  • การตรวจสอบประตูก่อนการติดตั้ง การตรวจสอบชนิดการใช้งานและขนาดให้ถูกต้อง และควรตรวจสอบบานประตูHDFก่อนการติดตั้งว่ามีสภาพผิดปกติหรือไม่เช่น แตก บิด โก่ง หรือมีคราบน้ำและอื่นๆ หากพบความผิดปรกติไม่ควรติดตั้งโดยเด็ดขาด
  • การตรวจสอบวงกบ ก่อนการติดตั้งบานประตู ควรตรวจสอบการติดตั้งวงกบว่าได้ระยะดิ่ง ระยะฉากและตรวจสอบระยะภายในวงกบ ว่ามีระยะที่สามารถติดตั้งกับบานประตูได้
  • การปรับไสประตูHDF หากจำเป็นต้องปรับไสบานประตู ต้องการปรับไสแต่ละด้านไม่เกิน 5 มม.และรวมทั้ง 2 ด้าน ไม่เกิน 10 มม. (การปรับไสแต่ละด้านต้องการเท่ากันไม่ควรไสด้านใดด้านหนึ่ง) การปรับไสเกินมาตรฐานที่ผู้ผลิตระบุ จะส่งผลต่อความแข็งแรงของบานประตู
  • การติดตั้งบานพับ สำหรับขั้นตอนการติดบานพับเข้าที่สันบานประตู ควรวัดและทำสัญลักษณ์ก่อนการขันสกรูบานพับ จากนั้นทำการเซาะร่องบานพับ (การเลือกบานพับที่เหมาะสมต้องพิจารณาถึงความหนาของบ้านพับเป็นสำคัญ) ข้อควรระวัง : จำนวนบานพับที่ใช้สำหรับบานประตู 1 บาน ควรพิจารณาถึงขนาด และน้ำหนักของประตูเพื่อให้ บานพับรับน้ำหนักประตูได้เนื่องจากบานพับจะส่งผลต่ออายุการใช้งานของบานประตู (บานประตูที่นิยมใช้สำหรับไม้อัดคือขนาด 3”x4”x2มม.) บานประตูHDFขนาดมาตรฐาน 70,80,90CM * 200CM ใช้บานพับ3ชิ้น โดยติดด้านบน 1 ชิ้น ตรงกลาง 1 ชิ้น และด้านล่าง 1 ชิ้น สำหรับ บานประตูHDFที่มีความสูงมากกว่า 200CM ควรติดบานพับด้าน 4 ชิ้น ด้านบน 2 ชิ้น ตรงกลาง 1 ชิ้น และ ด้านล่าง 1 ชิ้นของบานประตู
  • การติดตั้งลูกบิด ให้ติดตามแนวกึ่งกลางที่โรงงานปั๊มตรายางไว้ให้ ลึกเข้าไปในประตูได้โดยโรงงานมีไม้เสริม สำหรับติดตั้งบานลูกบิด ลึกรวมไม้กรอบข้าง 10 มม. ข้อควรระวัง : ตำแหน่งเจาะลูกบิดไม่ได้อยู่ระยะตรงกลางบานประตุ แต่อยู่ในระดับความสูงที่วัดจากขอบด้านล่างขึ้นมาให้เหมาะสมกับความสูงของคนเปิดดังนั้น ไม่ควรลบ รอยปั๊มในการเจาะรูลูกบิดหากมีการสลับกลับด้านบนด้านล่างประตูอาจทำให้ เจาะรูไม่ตรงกับตำแหน่งที่ระบุไว้ให้
  • การติดตั้งประตูลูกฟักHDF ไม่ควรติดตั้งประตูHDF ทันทีในอากาศที่มีการทำสี หรือฉาบปูนเสร็จใหม่ๆ เนื่องจากความชื้นของพื้นที่ติดตั้งจะส่งผลต่อบานประตู และควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งประตูHDF ในบริเวณที่สัมผัสโดยตรงกับน้ำและความร้อนจากแสงแดดโดยตรงหรือบริเวณที่มีความแตกต่างของอุณหภูมิมากๆ เช่น บริเวณช่องแอร์ เนื่องจากสีรองพื้นบนประตูที่ทาจากโรงงานไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเป็นสีที่จะช่วยป้องกันประตูจากความชื้นได้ ดังนั้นภายหลังการติดตั้งการทำสีทันทีจะช่วยกันความชื้นเข้าไปในบานประตูHDFได้ในระดับหนึ่ง
    • กรณีที่บานประตูHDFมีความชื้นอยู่ก่อนต่อให้มีการทำสี ความชื้นนั้นจะยังคงมีซึ่ง ความชื้นที่เกิดขึ้นภายในประตูจะส่งผลต่อการเปลี่ยนสภาพของบานประตู เช่น เกิดการยุบตัว บวมของบานประตู ดังนั้นเมื่อติดตั้งประตูHDFจำเป็นต้องมีการทำสีทันที และควรมีการทำสีรองพื้นอย่างน้อย 1 ครั้ง และทำสีจริงอีก 2 ครั้ง
    • ก่อนทำสีประตูHDFต้องปราศจากฝุ่น และสิ่งสกปรกการทำความสะอาดควรใช้กระดาษทรายเบอร์ละเอียด (ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของ ผู้ผลิตสีอย่างถูกต้อง) สิ่งสำคัญในการทำสี คือ ควรทำสีของประตูทั้ง 4 ด้านให้เรียบร้อยหลังจากการติดตั้งประตูHDF หากในพื้นที่ติดตั้งมีการระบายอากาศที่ดี ภายในตัวอาคารจะสามารถช่วยป้องกันเรื่องความชื่นได้ระดับหนึ่ง
    • การติดตั้งประตูHDFในช่วงฤดูฝนถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยง ถ้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้หลักการติดตั้งประตูควรทาสี น้ำมันให้เสร็จโดยเร็ว หรือไม่ควรทำสีเกิน 3 วัน หลังจากการติดตั้ง เพราะฤดูฝนเป็นช่วงที่อากาศมีความชื้นสัมพันธ์สูงที่สุด ประตู HDF จะมีคุณสมบัติเฉพาะในการดูดความชิ้นได้ง่าย ดังนั้น การติดตั้งประตูHDF ควรติดตั้งในงานสุดท้ายของแผ่นงานก่อสร้าง หรือทำสีบานประตูก่อนที่จะติดตั้ง เพื่อช่วยลดปัญหาที่อาจจะเกิดความชื้นดังกล่าว
  • ประตูHDFเหมาะสำหรับ ใช้เป็นประตูภายในบ้าน หรือภายในอาคาร เช่น ประตูห้องนอน ประตูห้องรับแขก ประตูห้องทำงาน เป็นต้น หรือกรณีที่ต้องการใช้บานประตูห้องน้ำ ควรจะใช้กับห้องน้ำที่มีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งจากกัน

ตอบโจทย์การใช้งานและการออกแบบงานประตู

Inspire by DOORTHAI 
061-767-9998 , 062-353-3398 , ID LINE @doorthai

กลับสู่หน้าแรก DOORTHAI คลิก

ชมผลงานประตูเพื่อเป็นไอเดียในการออกแบบ คลิก

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้